ตาวัยดึกหวิดดับเผาตอซางข้าวสำลักควันหน้ามืดฟุบกลางทุ่ง

เมื่อเวลา 10:00 น ของวันที่ 19 มีนาคม 2567 อาสาสมัครสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีได้รับแจ้งมีชายผู้สูงอายุ เผาตอซางข้าวบริเวณกลางทุ่งนา ก่อนสำลักควันเป็นลมฟุบกลางกลุ่มควันและเปลวเพลิง หวิดถูกย่างสด ได้รับบาดเจ็บถูกไฟครอกบริเวณขา จึงลงทำการตรวจสอบและช่วยเหลือ
บริเวณที่ได้รับแจ้งอยู่บริเวณทุ่งนาริมถนนในหมู่บ้านหนองโพน หมู่ 13 ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พบตาเรือง ไม่ทราบนามสกุล อายุ 76 ปี มีสภาพถูกไฟครอกบริเวณศีรษะเส้นผมหยิกงอจนถึงหนังหัว บริเวณใบหน้าด้านซ้ายมีเศษเขม่าตอซางข้าวข้าวสีดำติดบริเวณใบหน้า เสื้อและกางเกงและฝั่งซ้ายมีร่องรอยไฟไหม้จนฉีกขาด บริเวณขาซ้ายมีรอยแผลไฟคลอกตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาบริเวณน่อง ทั้งยับพบว่าคุณตาเรือง มีสภาพอิดโรย อย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่ทางอาสากู้ภัยจะนำคุณดาวเรืองส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา โดยในขณะที่นำดาวเรืองส่งทำการรักษาอยู่นั้นไฟก็ยังโหมลุกไหม้อยู่บริเวณกลางทุ่งนาอยู่ ต่อมาได้มีชาวบ้านในพื้นที่โทรแจ้งหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลวังดาลเข้าระงับเพลิงที่กำลังลูกไหม้

*****จากการสอบถามตาเรือง ได้กล่าวว่าตนมาเผาตอซางข้าวแล้วลมมันเปลี่ยนทิศ กลุ่มควันจึงพัดมาใส่ตน ตนจึงมีอาการเวียนหน้าและล้มฟุบลง ซึ่งคิดว่าตอนนั้นตอนคงไม่รอด
*****ด้านนายทวีศักดิ์ เครือหงษ์ ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยตาได้กล่าวว่า ตอนนั้นตนกำลังดับไฟอยู่บริเวณข้างบ้าน ต่อมาจึงขึ้นไปด้านบนบ้าน จึงหันไปเห็นคุณตานอนอยู่บริเวณต้นตาล โดยในช่วงของต้นตาลนั้นหญ้าไม่เยอะ จากนั้นทางคุณตาได้ยกมือขึ้นมาแล้วก็ฟุบลงไป ตนกับเพื่อนจึงได้รีบลงไปช่วย โดยอุ้มออกมาให้ตานั่งพักห่างจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้ประมาณ 100 เมตร ซึ่งหากตนไม่เห็นตาก็คงจะถูกไฟไหม้ไม่รอดชีวิตเป็นแน่

*****ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นทุ่งหญ้ากว้างขนาดใหญ่ ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่มักจะมีการจุดไฟเผาต่อซางข้าว กันในพื้นที่เป็นประจำ ทั้งที่ทางผู้นำหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเตือนประกาศตามสายว่าไม่ให้มีการเผาตอซางข้าวแต่ก็ยังมีผู้ที่แอบจุดเผาเป็นประจำ เบื้องต้นหลังจากที่ทางอาสากู้ภัยนำร่างนายบุญเรืองที่มีอาการบาดเจ็บอย่างที่กล่าวมาไปทำการรักษาพยาบาล ตอนนี้ทางนายเรืองมีอาการดีขึ้น ก่อนที่จะติดต่อญาติให้ไปรับตัวกลับมารักษาตัวที่บ้าน

ภาพ/ข่าว:ดิเรกฤทธิ์ แสงสุวรรณ  ปราจีนบุรี