คืบหน้าแท่งปูนชายหาดเกาะช้าง เจ้าของน้อมรับไม่มีเจตนาบุกรุกสร้างกันคลื่น

คืบหน้าแท่งปูนชายหาดเกาะช้าง เจ้าของน้อมรับไม่มีเจตนาบุกรุกสร้างกันคลื่น เจ้าท่าสั่งตรวจสอบหากผิดสั่งรื้อถอน
เรื่องร้อนๆเกาะช้าง หลังมีข่าวแท่งปูนยื่นออกไปในทะเลที่ชายหาดเกาะช้างของโรงแรงดังบนเกาะช้าง เจ้าของเผยซื้อโรงแรมมาเมื่อปี 2530 เดิมเป็นกองหิน ทำเป็นแท่งปูนเพื่อลดความแรงของคลื่นป้องกันการกัดเซาะ ขณะชายหาดเกาะช้างเร่งสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะหลายแห่งแล้ว แจ้งเจ้าหน้าที่หลังก่อสร้างแล้ว
หลังมีข่าวออกไป นายมานพ เหลืองอ่อน ผอ.เจ้าท่าตราด พร้อมด้วยนายอำเภอกาะช้าง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ลงพื้นที่ตรวจข้อเท็จจริง กรณีมีผู้ร้องเรียนโรงแรมเกาะช้างแกรนด์วิว ม.4 บ้านหาดทรายขาว ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด ก่อสร้างแท่งซิเมนต์ขนาดใหญ่ รุกล้ำลงไปในทะเลตามที่เป็นข่าวไปแล้ว ในเรื่องดังกล่าว เจ้าของโรงแรมเกาะช้างแกรนด์วิว เดินทางมาจากจังหวัดระยอง เพื่อเตรียมนำเอกสาร หลักฐานเข้าพบและชี้แจงกับสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคตราดแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา

คุณภิราพัณณ์ วงษ์มณี เจ้าของเกาะช้างแกรนด์วิว บอกว่าโรงแรมแห่งนี้ตนเองซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิมในปี 2530 หลังจากนั้นก็ทำการตบแต่งปรับปรุงเพื่อให้สวยงามยิ่งขึ้น สำหรับแท่งซีเมนต์ที่เจ้าท่ามาตรวจสอบ เดิมเป็นกองหินตามธรรมชาติอยู่หน้าโรงแรม ตนได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ คสช ในสมัยนั้นเกี่ยวกับการขอก่อสร้างเพื่อเป็นแนวกันคลื่น และลดความรุนแรงของกระแสคลื่น เนื่องจากเกาะช้างหน้ามรสุม จะมีคลื่นแรงมาก ทำให้เกิดการกัดเซาะพังทลายของชายฝั่ง ตนเองไม่มีเจตนาจะบุกรุกชายหาดตลอดจนโรงแรมของตน ก็เปิดให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านใช้ประโยชน์ได้ โรงแรมไม่มีการปิดประตูทางเข้า ทุกคนเข้าได้ตลอดเวลา อีกทั้งชาวบ้านก็อาศัยด้านหน้าโรงแรมของตน ขึ้นลงทำการประมงได้ หากสิ่งที่ทำเป็นความผิด ตนเองก็น้อมรับพร้อมทำการแก้ไข หรือเจ้าท่าสั่งให้รื้อตนเองก็ยินดีที่จะรื้อถอนให้ แต่ข่าวที่ออกไปว่าเจ้าท่าสั่งรื้อภายใน7วันนั้น ไม่เป็นความจริง เจ้าของโรงแรมเกาะช้างแกรนด์วิว บอกว่า ขณะนี้ทางเจ้าท่าทำการตรวจสอบ เอกสาร หลักฐานต่างๆ ตลอดจนการตรวจสอบพื้นที่ ตรวจสอบสิทธิในที่ดินดังกล่าวด้วย ว่าแต่เดิม แนวเขตของพื้นที่ก่อนถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่งนั้น อยู่ในทะเลตรงจุดใด เพราะเวลาผ่านมาหลายสิบปี ชายฝั่งถูกกัดเซาะไปมาก ซึ่งปัจจุบัน ผู้ประกอบการต่างพากันแก้ปัญหาป้องกันการกัดเซาะ ด้วยการทำกำแพงกันคลื่นกันหลายแห่งแล้ว ตนจึงอยากให้สังคมเข้าใจ ว่าเป็นเพียงการป้องกันปัญหาคลื่นกัดเซาะเท่านั้น ไม่มีเจตนา บุกรุก ครอบครอง และพร้อมจะแก้ไขให้ถูกต้องหลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว

ในเรื่องดังกล่าว นายมานพ เหลืออ่อน ผอ.เจ้าท่าภูมิภาคตราด ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ เกียวกับเรื่องนี้ว่า เจ้าท่ายังไม่มีคำสั่งให้รื้อ และยังไม่กำหนดเวลา เพียงแต่ต้องการตรวจสอบหลัฐานต่างๆตลอดจนข้อเท็จจริงเสียก่อน หากพบว่าผิดจริง ไม่เป็นไปตามระเบียบของทางราชการ ก็จะสั่งให้มีการรื้อถอนและทำการขออนุญาตใหม่ ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดเวลาได้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไร ไม่ใช่สั่งรื้อด่วนใน 7 วัน ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างไร

ข่าวภูมิภาค จ.ตราด ภาพ/ข่าว ณัฐวุฒิ สวัสดิ์วารี